ชุกรี อิบนฺนูรดีน ขอเปิดหน้าต่างใหม่สู่การเรียนภาษาอังกฤษผ่านบทความยอดนิยม ภาษาอังกฤษทำให้เราได้มองโลกที่กว้างขึ้น มองอนาคตที่ชัดขึ้น เเละมองตัวเองเชิงบวก ผมจะบอกว่า "วิธีการเรียนภาษาอังกฤษไม่เหมือนกับการเรียนเปิด-ปิดหลอดไฟครับ" [หน้าต่างสู่ภาษาอังกฤษเป็นช่องทางหนึ่งสำหรับประชาชาติ]
20 ก.ย. 2553
เทคนิคการอ่านแบบ Scanning
เทคนิคการอ่านแบบ Scanning
เรื่องโดย ผศ.ดร.พนิตนาฎ ชูฤกษ์
เมื่อพูดถึงการพัฒนาการอ่านโดยฝึกเทคนิคการอ่านเร็ว หรืออ่านแบบควบคุมเวลาแล้ว ครูก็เลยอยากจะแนะนำเทคนิคการอ่านเพิ่มอีกสักเทคนิคหนึ่งเทคนิคที่เราจะคุยกันในตอนนี้เรียกว่า Scanning ค่ะ
Scanning เป็นทักษะการอ่านเร็วที่มีลักษณะคล้ายกับ Skimming ที่ครูแนะนำให้รู้จักกันไปแล้ว คือเป็นการกวาดตาคร่าวๆ อย่างเร็วๆ ไปบนสิ่งที่เราจะอ่านเหมือนกัน ต่างกันก็ตรง Scanning เป็นการกวาดตาอย่างรวดเร็วเพื่อหาเป้าหมายหรือข้อมูลเฉพาะอย่าง เรียกว่าเราต้องมีจุดประสงค์อยู่ในใจอย่างแน่วแน่ว่าเราต้องการรู้หรืออ่านเพื่อค้นหาอะไร
โดยปกติเราใช้เทคนิคการอ่านแบบ Scanning กับชีวิตประจำวันอยู่บ่อยๆ เช่น การดูประกาศผลสอบ ครูว่าคงไม่มีใครอ่านตั้งแต่ชื่อแรกที่ประกาศ แล้วก็อ่านไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอชื่อของเราหรอกนะ มีไหมที่ใครจะเริ่มต้นอ่านตั้งแต่หมายเลขหนึ่ง นางสาวบุญทิ้ง บุญชิงชัง หมายเลขสอง นายส้มหล่น สุดหม่นหมอง....ไม่มี แต่เราจะใช้เทคนิคการ Scanning คือกวาดตาคร่าวๆ โดยมีเป้าหมายคือชื่อของเราเองอยู่ในใจ แล้วเราก็ Scan หาแต่ชื่อของตัวเองโดยไม่สนใจชื่ออื่นๆที่เราไม่ได้ตั้งใจจะหา
หรือการอ่านเพื่อหาความหมายของคำศัพท์ที่ต้องการจากพจนานุกรม เราใช้เทคนิคการ Scan เหมือนกัน คงไม่มีใครเปิดอ่านตั้งแต่คำแรกในหน้าแรกหรอกจริงมั้ย เรามีเป้าหมายว่าเราต้องการหาคำศัพท์คำไหนเราก็ Scan หาคำนั้นเลย
นอกจากนี้เรายังใช้เทคนิค Scanning กับการอ่านต่างในชีวิตประจำวันของเราอีก เช่นการค้นหาหัวข้อที่เราต้องการอ่านในหน้าสารบัญ การอ่านเพื่อหาข้อมูลที่ต้องการจากตาราง แผนภูมิ หรือกราฟ
ถ้าใครนึกภาพไม่ออก ลองคิดตามครูนะคะ
ลองนึกถึงเวลาที่คุณเข้าร้านหนังสือ เวลาที่คุณเดินเข้าไปคุณทำยังไงคะคุณดูหนังสือทุกๆ เล่มทั้งร้านเลยหรือเปล่า
ครูว่าไม่มีใครทำอย่างนี้แน่นอนเลย
แล้วเราทำยังไงกัน
ถ้าใครเข้าร้านหนังสือโดยไม่มีเป้าหมายอะไรเลย ก็แค่อยากเข้ามาดูๆ ว่าจะมีหนังสืออะไรน่าสนใจเผื่อจะซื้อกลับไปอ่านสักเล่ม ลองนึกดูสิคะว่าเราจะมีพฤติกรรมอย่างไร
คนกลุ่มนี้จะกวาดตาดูคร่าวๆดูชั้นโน้นทีดูชั้นนี้ที เรียกว่าดูไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอหนังสือที่โดนใจ พฤติกรรมแบบนี้นี่แหละคือเทคนิค Skimming ค่ะเอ! ใช้ทักษะการ Skim แล้วจะรู้ไหมเนี่ยว่ามีหนังสืออะไรกันบ้าง
รู้สิคะ แต่เป็นความรู้แบบกว้างๆอาจจะรู้ว่ามีหนังสือประเภทไหนบ้างหรือรู้ว่ามีหนังสืออะไรบ้าง
แต่บางครั้งที่เราเข้าร้านหนังสือ เรามักจะมีเป้าหมายหรือจุดประสงค์อย่างชัดเจนว่าเราอยากอ่านหนังสืออะไร ( ความจริงครูน่าจะบอกว่าอยากซื้อหนังสืออะไร แต่เดี๋ยวนี้คนเข้าร้านหนังสือเพราะไปอ่านหนังสือเยอะกว่าไปซื้อซะอีก )เราก็ใช้เทคนิค Scanning คือกวาดตาอย่างมีเป้าหมายว่าวันนี้จะมาอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ เราก็จะกวาดตาหาแต่หมวดภาษาอังกฤษซึ่งเป็นเป้าหมายของเราหมวดอื่นๆ เราก็มองผ่านไป
นั่นแน่เจอแล้วหมวดภาษาอังกฤษที่เราอยากอ่าน แต่ที่หมวดนี้ก็มีหนังสืออีกเยอะมากๆ จะทำยังไงดีล่ะ เราก็ต้องใช้เทคนิคการ Scan ต่ออีกแล้ว
เราต้องรู้ว่าเป้าหมายหรือหนังสือที่เราจะมาอ่านในวันนี้คืออะไร
สมมุติอยากมาอ่านหนังสือ “ ไม่อยากท่องจำ...จะทำไงดี?” ของอาจารย์พนิตนาฏเราก็จะ Scanหาแต่เล่มที่เราต้องการเท่านั้น ถ้าสายตาจะบังเอิญไปเจอหนังสือภาษาอังกฤษเล่มอื่นๆ ก็จะไม่สนใจ แต่จะกวาดตาอย่างเร็วๆ จนเจอเล่มที่เราต้องการค่ะ
O.K. ไหมค่ะ
ฟังๆดูแล้วหลายคนคงอยากจะบอกครูว่าอาจารย์ขา ทำไมอาจารย์พูดเรื่องนี้ล่ะคะ ก็เรื่องนี้มันแสนจะธรรมดา พวกเราทำอย่างนี้อยู่แล้วในชีวิตประจำวัน ก็นั่นน่ะซิ ก็ทำอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน
แล้วเวลาอ่านภาษาอังกฤษทำไมไม่ทำแบบนี้บ้าง ทำไมไม่ใช้เทคนิค Skim Scan กันบ้าง มาตั้งหน้าตั้งตาอ่านกันทุกตัวอักษร ทุกคำ แล้วก็มาบ่นว่าอ่านหนังสือช้าบ้างล่ะ อ่านหนังสือไม่รู้เรื่องบ้างล่ะเรามาลองใช้เทคนิค Skim Scan อย่างที่ครูแนะนำกันบ้างสิ
ถ้าครูจะเทียบตัวอย่างที่ครูพูดในตอนต้นกับการอ่านภาษาอังกฤษของเราก็คงคล้ายๆกับเวลาที่อาจารย์หรือเจ้านายมอบหมายให้เราไปอ่านหรือค้นคว้าข้อมูลอะไรสักอย่างในหนังสือสักเล่ม โอ้โห! เปิดมาตัวหนังสือภาษาอังกฤษเต็มพรืดไปหมดประมาณว่าแค่เห็นหน้าแรกก็เวียนหัวแล้ว เราจะทำยังไงดี ครูแนะนำให้ใช้เทคนิค Skimming ดูค่ะ ( ใครสงสัยหรือไม่ได้อ่าน เทคนิค Skimming ครุขอแนะนำให้ไปหาเมื่อสองตอนที่แล้วอ่านดูนะคะ เพราะครูอธิบายไว้ละเอียดแล้วค่ะ ) เราจะได้เห็นภาพรวมๆ กว้างๆ ของเรื่องที่จะอ่านก่อน ซึ่งเรื่องนี้ครูจะเขียนอธิบายให้ละเอียดในตอนต่อๆไปนะคะ
แต่ถ้าใครมีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าจะค้นข้อมูลอะไรหนังสือเล่มนี้เราก้มาใช้เทคนิค Scanning ดีกว่า
ส่วนจะใช้เทคนิค Scanning ในการอ่านยังไงต้องติดตามต่อตอนหน้าค่ะ
ว่าแต่ว่า แล้วตอนนี้รู้แล้วหรือยังว่าเราเคยคุ้นๆกับคำว่า Scan ไหมค่ะ
เคยได้ยินกันบ่อยๆ ใช่ไหม ก็ Scanner ซึ่งเป็นอุปกรณ์ไฮเทคที่ใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์ไงค่ะ
แล้วเจ้า Scanner คือเครื่องอะไร
ห้ามตอบเด็ดขาดเลยนะคะว่า Scanner คือเครื่องสแกน แหม ! ตอบแบบนี้ออกจะกำปั้นทุบดินไปหน่อยค่ะ
แล้ว Scanner ใช้ทำอะไร
เราใช้ Scanner เพื่อ Copy โดยเลือกเอาเฉพาะรูปหรือข้อความที่เรากำหนดเป้นเป้าหมายให้เครื่องอ่านเท่านั้น ต่างกับเครื่องถ่ายเอกสาร ซึ่งเราไม่สามารถเลือกสำเนาเฉพาะรูปหรือข้อความใดๆ ได้ แต่เราจะได้สำเนาหมดทั้งหน้าเลยเรียกว่าเจ้าเครื่องถ่ายเอกสารเนี่ย ให้ดูอะไรก็ Copy มาหมดทั้งหน้า แต่ Scanner สามารถเลือกสำเนาได้เฉพาะข้อมูลที่เราต้องการ
รู้อย่างนั้นแล้วจะเป็นนักอ่านแบบเครื่องถ่ายเอกสาร หรือจะเป็น Scanner ก็ไปเลือกกันเอาเอง
ขอขอบคุณ การศึกษาวันนี้ ปีที่ 7 ฉบับที่ 333 ( 408 ) วันที่ 17 – 24 พฤษภาคม 2550
www.dnfe5.nfe.go.th/localdata/webimags/story274scanning-reader.html
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น