ชุกรี อิบนฺนูรดีน ขอเปิดหน้าต่างใหม่สู่การเรียนภาษาอังกฤษผ่านบทความยอดนิยม ภาษาอังกฤษทำให้เราได้มองโลกที่กว้างขึ้น มองอนาคตที่ชัดขึ้น เเละมองตัวเองเชิงบวก ผมจะบอกว่า "วิธีการเรียนภาษาอังกฤษไม่เหมือนกับการเรียนเปิด-ปิดหลอดไฟครับ" [หน้าต่างสู่ภาษาอังกฤษเป็นช่องทางหนึ่งสำหรับประชาชาติ]
15 ก.ย. 2553
กลยุทธ์ในการเรียนภาษาอังกฤษ
โดย ว่าที่ร.ต.ไพศาล บรรจุสุวรรณ์
ผมต้องขอออกตัวไว้ก่อนนะครับว่า ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษอะไรหรอกครับ แม้ว่าจะเรียนจบ ป.ตรี เอกภาษาอังกฤษมาก็ตาม จบออกมาผมก็ไม่ได้เอาดีทางด้านนี้ งานที่ทำก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับภาษาอังกฤษโดยตรง ใจมันไม่รัก ฉันทะมันไม่เกิดตั้งแต่ต้น ตอนเรียนจึงทำได้แค่ให้มันผ่านๆ ไป มาสำนึกได้ก็สายเต็มทีแล้วครับที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่า ก็เพราะว่าเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 15 มกราคม 2552) มีโอกาสได้ไปฟังการบรรยาย เรื่อง
"ฟุลไบรท์ (Fulbright)" โดยคุณฉัตรไชย อักษรศิลป์ Senior Program Assistant ของมูลนิธิการศึกษาไทย - อเมริกัน (ฟุลไบรท์) ทำให้ได้ความรู้และแง่คิดบางประการ และได้แง่คิดมากยิ่งขึ้น เมื่อได้ฟัง รองศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรไชย รัตนไชย รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและวิเทศสัมพันธ์ กล่าวตอนปิดการบรรยายเมื่อใกล้เที่ยงว่า
เรื่องที่ได้รับฟังเกี่ยวกับ "ฟุลไบรท์" นั้น ผู้เข้าฟังก็พอจะเข้าใจกันโดยส่วนใหญ่ แต่ที่เป็นปัญหาก็คงจะเป็นเรื่องเงื่อนไขภาษาอังกฤษที่เป็นอุปสรรค ทักษะภาษาอังกฤษนั้นไม่มีวิธีลัด แต่ต้องอาศัยการเรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ลองถ้าได้นั่งดูข่าว CNN วันละ 2 ชั่วโมง และทำต่อเนื่องอยู่เรื่อยๆ มันก็ต้องได้เข้าสักวัน
ผมฟังแล้ว เห็นด้วยยิ่งนัก เหมือนคำกล่าวที่ว่า
A strong command of reading, writing, speaking and listening in English cannot be developed instantly. It grows over a long period of time spent reading, writing, speaking and listening widely and practicing again and again.
กลยุทธ์ในการเรียนภาษาอังกฤษจึงไม่มีวิธีลัด แม้จะไม่มีวิธีลัด แต่ก็พอจะมีกลวิธีและเทคนิดดีๆ มาเล่าสู่กันฟังครับ ผมเองก็กำลังใช้เทคนิคเหล่านี้อยู่เช่นกันครับ (แม้จะไม่ค่อยก้าวหน้าสักเท่าไหร่ ใครใช้ได้ผล ก็เล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ) มีขั้นตอนที่สำคัญ ดังนี้ครับ
1. กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมาย
2. รู้จัก จัดเตรียม และแสวงหาแหล่งความรู้
3. พัฒนากลยุทธ์การเรียน
4. ลงมือปฏิบัติครับ
เริ่มตั้งแต่วัตถุประสงค์และเป้าหมาย เช่น
- จะเรียนรู้ศัพท์ใหม่ (วิธีออกเสียง ความหมาย วิธีใช้คำในประโยค ฯลฯ) วันละ 5 - 10 คำ
- ภายใน 1 เดือน สามารถเขียน e - mail โต้ตอบกับเพื่อนชาวต่างชาติได้โดยไม่ขลุกขลัก
- ภายใน 3 เดือน สามารถอ่านข่าวและบทความ ในหนังสือพิมพ์รายวันและนิตยสารรายสัปดาห์ได้เข้าใจเป็นส่วนใหญ่
- ภายใน 6 เดือน สามารถชมข่าวภาษาอังกฤษทางโทรทัศน์ได้เข้าใจจนสามารถสรุปสาระสำคัญของเนื้อข่าวได้
ทั้งนี้ ต้องให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของแต่ละคนด้วย โดยคำนึงถึงพื้นฐายความรู้ ความถนัด และการจัดสรรเวลา (ภาระการเรียน ภาระการงาน และกิจกรรมอื่นๆ)
นอกจากนี้ หากจะจำแนกกลยุทธ์ในการเรียนภาษา เราอาจจำแนกเป็นองค์ประกอบได้ 10 ประการ กล่าวคือ
ศึกษา - ฝึกฝน - สังเกต - จดจำ - เลียนแบบ - ดัดแปลง - วิเคราะห์ - ค้นคว้า - ใช้งาน - ปรับปรุง
ยิ่งไปกว่านั้น การจะฝึกฝนภาษาอังกฤษให้ได้ผลเป็นที่แน่นอนต้องหมั่นใช้อินทรีย์หลายทางควบคู่กัน และต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่องและยาวนาน ผลสำเร็จที่ได้ก็เหมือนผลไม้ที่กำลังจะออกผล แม้ตอนนี้จะเห็นเป็นเพียงลำต้นและใบเท่านั้น แต่ถ้าหากฝึกฝนนานไป ผลก็จะต้องมาให้เห็นเข้าสักวันครับ อนึ่ง อินทรีย์ที่ต้องหมั่นใช้ให้เชี่ยวชาญ และช่ำชองอยู่สม่ำเสมอ ก็คือ
1. ตา - ดู
2. หู - ฟัง
3. ปาก - พูด
4. มือ - เขียน
5. หัว - คิด
6. ใจ - รัก (ข้อนี้เนี๊ยะ สำคัญยิ่งนัก)
ส่วนกลวิธีอื่นๆ ที่พอจะแนะนำได้ลองเข้าไปดูในเว็บไซต์แนะนำที่นี่ครับ และกลวิธีอื่นๆ อาทิ
ใครที่มีปัญหาเรื่องคำศัพท์ ผมแนะให้ดาวน์โหลดโปรแกรม LEXitron Dictionary มาติดตั้งที่เครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ใช้ดูนะครับ สามารถแปลศัพท์อังกฤษเป็นไทย และแปลศัพท์ไทยเป็นอังกฤษ ผลงานของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สำนักพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีครับ (http://lexitron.nectec.or.th) การมีโปรแกรมนี้ไว้ใช้ อย่างน้อยๆ ก็ดีกว่าการซื้อดิกชันนารีเป็นเล่มๆ มานั่งเปิดหาความหมายของคำศัพท์ เพราะวิธีการนี้มันสะดวก รวดเร็ว และหาศัพท์ได้ทันใจกว่าเยอะ
หากใครชอบดิกชันนารีที่แปลศัพท์อังกฤษเป็นอังกฤษ ก็ต้องเข้าไปในบล็อคของคุณ โอ๋-อโณ ลองดาวน์โหลดมาใช้งานดู อาจจะติดใจเหมือนผมก็ได้ครับ เพราะสามารถฟังการออกเสียงคำศัพท์นั้นๆ ได้ด้วย(http://share.psu.ac.th/blog/chemlap/10588) หรือจะเข้าไปที่เว็บ http://www.dictionary.com/ ก็ได้ครับ นอกจากจะมีแปลอังกฤษเป็นอังกฤษแล้ว สามารถฟังการออกเสียงคำศัพท์นั้นๆ ได้เช่นกัน
ใครมีปัญหาด้านการฟัง ลองเข้าเว็บไซค์นี่ดูครับ www.voanews.com (Voice of America ครับ นอกจากดาวน์โหลดไฟล์เสียงมาฟังสำเนียงอเมริกันได้แล้ว ยังมี Subtitle ให้อ่านประกอบด้วย บางครั้งก็มีไฟล์วีดิโอ ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารของอเมริการวดเร็วทันใจ ยิ่งกว่าดู ทีวีช่องปกติกของบ้านเราเสียอีก) , http://enews.mcot.net (อันนี้เป็นเสียงภาษาอังกฤษสำเนียงไทย น่าสนใจดีครับ
แม้การฝึกภาษาอังกฤษจะไม่มีวิธีลัด แต่หากมีเทคนิคดีๆ ก็ช่วยให้การเรียนรู้มีสีสันขึ้นครับ ยังไงก็ขอให้สนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษนะครับ
ขอขอบคุณ www.share.psu.ac.th/blog/pisan-surat/10991
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
2 ความคิดเห็น:
very good
great brother! Mashaallah
แสดงความคิดเห็น